น้ำมันที่หกลงในแม่น้ำหรือมหาสมุทร อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ การสำรวจขุดเจาะน้ำมันยังอาจทำความรบกวนให้กับถิ่นที่อยู่อาศัยบนบกและในมหาสมุทร อย่างไรก็ดี เทคนิคการขุดเจาะใหม่ๆทำให้บ่อน้ำมันแห่งเดียวสามารถผลิตน้ำมันได้จากพื้นที่บริเวณกว้างขึ้น ทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆก็ช่วยลดจำนวนและขนาดของพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขุดเจาะได้ด้วย
1.หมอกปนควัน
รถยนต์กับรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซลปล่อยควันและก๊าซ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ น้ำมันดีเซลยังปล่อยอนุภาคขนาดเล็กจิ๋ว เช่น ขี้เถ้า อนุภาคเหล่านี้สามารถก่อตัวเป็นหมอกปนควันปกคลุมเหนือเมืองขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเมืองอย่างลอสแองเจลิส ที่ล้อมรอบด้วยเนินเขา เมื่อปี ค.ศ.1952 ที่กรุงลอนดอนมีประชากรกว่า 4,000 คนเสียชีวิตจากหมอกปนควันที่เป็นมลพิษ เหตุการณ์นั้นเรียกว่า ซุปถั่วเขียว (Pea Soup)
2.ก๊าซเรือนกระจก
เมื่อพลังงานจากดวงอาทิตย์ส่งมายังโลก บางส่วนสะท้อนออกสู่อวกาศ แต่ส่วนใหญ่จะมาถึงพื้นผิวโลก ซึ่งเมื่อถูกดูดซับแล้ว พลังงานนนี้ก็จะย้อนกลับสู่ชั้นบรรยากาศ
ทว่าก๊าซเรือนกระจก เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับก๊าซมีเทนจะกักเก็บความร้อนเหมือนที่กระจกกักเก็บความร้อนเอาไว้ในเรือนกระจก ทำให้โลกเราร้อนชึ้น เนื่องจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมันก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ ปริมาณมหาศาล ภาวะโลกร้อนจึงทบทวียิ่งขึ้น
3.โรงกลั่นน้ำมัน
โรงกลั่นน้ำมันก็สามารถก่อปัญหาได้ ดังนั้นต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ก๊าซเหลือทิ้งที่เป็นอันตราย เช้น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์รั่วไหลออกมาได้ ต้องมีการใส่ใจดูแลให้ของเสียจากโรงกลั่นน้ำมันนี้ไม่ปนเปื้อนในทะเล แม่น้ำ และทะเลสาบ
4.ภัยร้ายต่อสัตว์ในธรรมชาติ
ในทุกปีจะมีน้ำมันไหลสู่ทะเลเป็นปริมาณหลายร้อยล้านลิตร ทั้งไหลตามท่อระบายน้ำหรือจากการทำความสะอาดถังเก็บน้ำมันบนเรือ น้ำมันที่รั่วไหล (oil spills) จากเรือบรรทุกทุกน้ำเป็นอันตรายมากเพราะว่าน้ำมันจะก่อตัวเป็นแผ่นหนาสีดำ ซึ่งฆ่านกและสัตว์ทะเลอื่นๆเป็นจำนวนมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น